top of page
Search
Writer's picturearnold Leelaprasert

Casting Director /Casting Asst. /Casting


ผมก็เขียนตามประสบการณ์นะครับ มันจะไม่เป็นไปตามหนังสือเขียนนะครับ มันจะเป็นไปตามที่เคยทำมา ไปเห็นมา ไปนั่งคยนั่งถามระดับเซียนมา ใครอยากเพิ่มแย้งได้นะครับ ยินดีครับมากๆ ครับ มันมีส่วนผิดอยู่ก็ยินดีแก้ให้เป็นสิ่งถูก ———————————————– Casting ทำกันอย่างไร? รับบรีฟจาก ผกก. หรือ ผช.ผกก. การบรีฟที่ดีคือต้องบรีฟให้เห็นภาพเดียวกัน เช่น พ่อบ้านซื่อบื้อ พ่อบ้านผู้จัดการธนาคาร มันคือ คาแรคเตอร์ ไม่ใช้บรีฟกันที่หน้าตา หรือหนุ่มนักธุรกิจอันเคร่งเครียด ที่กำลังจะถูกไล่ออก สาวมั่น AE ทันสมัยขับ Yaris หล่อเซอร์ยังกะแบรด์พิทท์ หล่อเด็กแบบจัสติน บีเวอร์ เกาหลีเหี้ยๆ (แปลว่าโคดเกาหลี) การบรีฟที่ดีคือต้องบรีฟให้เห็นภาพเดียวกัน อีกส่วนนึงก็จะเป็นการบรีฟแบบ Demographic ชายแท้ อายุ 25-28 ปี สูง 170 ขึ้น หุ่นดีมาตรฐาน ชายอ้วน อายุ 30-35 ปี สูง 160-165 มันเป็นการฝัง chip ให้ memory เหมือนกัน ปัญหาใหญ่ของมะนุดคืออะไรรู้มั้ย ตอบ ตอบ คิดไปเอง คิดว่า ไม่ถาม แล้วทำมาผิด แล้วก็มาต่อว่ากันว่า บรีฟไม่ clear เนี่ยแหละมะนุด มะนุดวงการนี้จึงต้องเรียกเสียใหม่ว่า Film maker คำนี้สำคัญ Casting จะไม่ใช่ Casting โว่ งง งง Casting เราจะเรียกเค้าว่า Casting Film maker Casting Film maker จะไม่ใช่คนที่เข้าใจเรื่องบรีฟ ให้เห็นภาพแค่อย่างเดียว คนบรีฟต้องบรีฟให้ Casting Film maker เข้าใจในบทภาพยนตร์ story board จนทำให้รู้สึกว่า หากบทเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อาจส่งผลกระทบต่อตัวแสดงที่เล่นด้วยอีกคน ว่าต้องเปลี่ยนไปอีกแบบเพื่อให้เข้ากัน Casting Film maker ก็จะเข้าใจแ ละหาเผื่อมาอีกในคราวเดียวกัน ยากมั้ย อืมทุกอย่างยากเสมอหากเป็นระดับ Pro เมื่อรับบรีฟมาแล้ว Casting Film maker ไปหามะนุดตัวแสดงที่ไหน Modelling ง่ายสุดบรีฟต่อให้ โมหามา โมก็ต้องเป็นโม Film maker อีกเช่นกัน หรือหากไม่ได้จริงๆ Casting Film maker ก็ต้องแตกบรีฟให้ชัดเจนว่า ต้องการใคร และเผื่อเป็นใคร แต่ Town in Town secret บอกไว้ว่า คิดเองนะครับ แต่ต้องมั่นใจว่าทำได้นะ ทำไง คิดถึงเพื่อน พ่อแม่พี่น้องก่อนว่า ใครเหมือนกับบรีฟที่อยากได้ ก็ List เอามา screentest ร่วม หรือมีใน stock ยิ่งทำมานาน ก็จะยิ่งมีในมือมาก แต่ที่สำคัญต้องใช่ ปกติผู้ช่วย casting จะรวบรวมเลือกรูป กับ Casting Director และประชุมคัดเลือก มาวางแบ่งกันตาม คาแร็ตเตอร์ตัวแสดง และนัดหมายวันเพื่อทำ screentest และต้องเช็คด้วยว่าวันถ่ายทำที่วางไว้ ตัวแสดงว่าง ปกติ screentest ชอบนัดเสาร์อาทิตย์ หรือเย็นๆ เพราะตัวแสดงส่วนมากทำงานกัน ก็จะนัดเหลื่อมเวลากันเพราะคนนึงอาจใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง พี่พี่เรานัดมาเวลาปกติ และไม่ใช่เสาร์อาทิตย์ ไม่ได้เหรอ ตอบ ได้ถ้าทำได้ แต่เชื่อสิ มีหลายคนไม่ได้วันทำงานปกติหรอก ก็ต้องทำเพิ่มอยู่ดี งาน screentest ทำอะไรบ้าง ตอบ เมื่อตัวแสดงมาถึง ที่ studio ที่เช่า หรือ set กันในห้องใน Production house ควรมีห้องรอ และห้องให้เขียน Casting sheet Casting Director จะต้องนั่งห้องนี้เพื่อพูดคุยกับตัวแสดง ระหว่างเขียนกรอก casting sheet เห้ย หยุดหยุด ไม่เคยเห็น Casting Director มานั่งคุยกับตัวแสดง มีแต่ผู้ช่วย casting นะมานั่งคุยเขียนกรอก และไม่รู้จะคุยอะไร กรอกเสร็จก็พูดในการถ่าย screentest สิ ตอบ ผมบอกแล้วว่าผมไม่ทำตามคนอื่นเค้าทำ Casting Director จะต้องนั่งห้องนี้เพื่อพูดคุยกับตัวแสดง ควรอยู่ตรงนี้ครับเพราะ ตอบ เพราะ Casting Director Film Maker จะต้องขุดจิตใจตัวแสดง พูดคุย ค้นหาตัวตนจริงๆ ค้นหาตัวตนปลอมๆ สายตา หัวใจ ความไฝ่ฝัน เหมือนๆ คล้ายการสัมภาษณ์งาน หรือหาคำถามหลอกล่อ Casting Director Film Maker จะต้องขุดจิตใจตัวแสดง และประเมินออกมา ช่วงนี้คงใช้เวลา ซัก 10-15 นาที ในห้องนี้ก็ต้องดูสบายไม่สร้างความอึดอัดต่อตัวแสดงมีน้ำ และแก้ววางไว้เผื่อตัวแสดงมาเหนื่อยๆ ซึ่งบางคนเรียกขั้นตอนนี้ว่า การ Audition การ Audition บางครั้งก็ทำกับตัวแสดง main บางคน เพื่อที่จะหาทัศนคติ มุมมอง บางครั้งก็ทำกับดาราที่จะมาเป็นตัวแสดงหลัก ซึ่งบางครั้งเมื่อได้ข้อมูลเหล่านี้อาจย้อนกลับมาถึงบทว่า มีบางอย่างที่ต้องมาปรับบทให้เข้ากับดาราคนนี้ และซึ่งก็ไม่ทำให้บทเสียหายแต่ต้องทำให้บทดีขึ้น โอ…ยาว หลังจากนั้นผู้ช่วย casting ก็ต้องพาไปวัดตัวแบบคร่าวๆ เห้ยยยยย…ตัวแสดงเค้าเขียนไว้แล้วใน casting sheet นี่ครับ ในโลกแห่งความเป็นจริงตัวแสดงบางคนไม่ใส่ตัวเลขจริง หรือไม่ได้ update ตัวเอง เช่น สูง 157 แต่ใส่ 160 กลัวดูตัวเองเตี้ย น้ำหนัก 50 ก็ใส่ 45 หุ่นเหมือนกัน หน้าอก เอว สะโพก ต้อง update ใหม่หมดเพื่อให้ได้ความเป็นจริงครับ มีอะไรบ้าง หน้าอก เอว สะโพก ส่วนสูง น้ำหนัก เบอร์รองเท้า หน้าอก เอว สะโพกเนี่ยวัดผิดมานักต่อนักแล้ว วันนั้นตัวแสดงใส่กางเกงยีนส์ ถ้าวัดนอกกางกางยีนส์อาจมีเพี้ยน 1 นิ้ว อาจต้องให้ถอดกางเกงวัด ไม่ใช่ละ อาจต้องขอดู size กางเกงยีนส์ที่ใส่ว่าเอวเท่าไหร่ มันเป็นงานละเอียด ซึ่งเมื่อ cast ผ่านแล้ว อาจต้องขอ update การวัดอีกทีก็เป็นได้ หากเรื่องมีความต้องการเฉพาะก็เพิ่มเข้าไปอีก เช่นขับรถได้ มอเตอร์ไซต์ได้ ขี่จักรยานได้ ว่ายน้ำ ร้องเพลง เต้นรำ ขึ้นอยู่กับบท Casting Director จะ note มาให้ถาม เฉพาะบทที่ต้องการ เอาคร่าวๆ แค่นี้ก่อน เพราะเราอาจจะต้อง cast อีกหลายสิบคนเพื่อนเลือกคนเดียว ก่อนการ screen test ผู้ช่วย casting อาจจะบรีฟคร่าวๆ ต้องให้พูดอะไร และอาจให้ลองเล่นบทอะไร บทอะไร casting director ก็จะต้องบรีฟผู้ช่วยไว้ว่า อยากได้บทอะไรบ้าง อาจต้องดูเสื้อผ้าที่ใส่มาด้วยว่าเหมาะที่จะ screentest รึปล่าว บางครั้งอาจ casting อาจมีเตรียมไว้ให้ใส่เลยก็มี หรือตอนนัดหมายอาจต้องบรีฟให้ใส่แบบไหนมาก็มี ตามสะดวกงบ และเวลา รวมถึงต้องอาจควรมีการ make up ทำผม ก่อนการ screentest ก็มี ห้อง screen test ตากล้องจะต้องมี mark ตัว T mark ไว้ที่พื้น เพื่อ… ตอบ ตากล้องจะเช็ค focus และ mark focus ไว้ที่จุดนี้ ไฟจะต้องพอกับ depth of field ไม่มืดไป ไม่สว่างไป Black ground ฉากมักเป็นสีเทา ดำ 50 % เพื่อจะไม่ให้ฉากมารบกวนตัวแสดง ถามตากล้องเก่งๆ เค้าก็บอกว่าสีเทามันเป็นสีกลางที่ไม่ค่อยรบกวนสีอื่น การจัดแสงควรให้ เมน ฟิว เท่ากันคือซ้ายขวา เท่ากัน แต่ไม่เท่าก็ได้นะหากต้องการ mood พิเศษ แต่ส่วนมากควร ซ้ายขวา เท่ากัน back ground ก็ไม่ควรสว่างกว่า แสงที่ตัวแสดง T mark จึงสำคัญตัวแสดงเห็นก็จะยืนอยู่ใน mark เป็นที่เข้าใจกัน ตากล้องก็ควรใช้ Lens ที่ normal คือ Lens 50 mm และ F stop ที่ค่ากึ่งกลางของ Lens เช่น Lens 50 mm จะมี F ตั้งแต่ 22-16-11-8-5.6-4-2.8-1.8F ตรงกลางคือ 5.6 หรือ 8 เฮ้ย…..เยอะนะ ทำมัยอ่ะ ต้องรู้ขนาดนั้นเลยเหรอ Casting VDO man นะ ไม่ใช่ DP รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม F ตรงกลางคือ 5.6 หรือ 8 จะทำให้เกดิ distortion ของ Lens น้อยที่สุด และหากจะถ่ายใกล้ ก็ควรเลื่อนกล้องเข้ามาใกล้ โดยใช้ Lens 50 mm เหมือนเดิม Zoom ไม่ได้เหรอ ตอบ ได้หากคนถ่ายไม่รู้สึกว่าอ้วนขึ้น หาก zoom เข้าไป โดยปกติหาก zoom มากๆ หน้านจะดูบวมขึ้นเล็กน้อย เพราะ Zoom ค่า F จะต่ำลง ซึ่งอันนี้คนถ่ายต้องพึงสังเกตุหากอวบขึ้น ก็จำเป็นต้องเลื่อนกล้องเข้าใกล้ดีกว่า โดยตากล้อง ก็จะ mark จุดที่ขาตั้งกล้อง จะวางใกล้ว่าอยู่ตรงไหนที่จะใกล้เห็นครึ่งตัวเป็นต้น และ Casting อาจมีการ test บทพิเศษ ก็ขึ้นอยู่กับบท คงเริ่มด้วย Slate Slate Slate Slate ต้องมีด้วยเหรอ ควรมีครับ เขียนชื่อ อายุ ส่วนสูง สัดส่วน น้ำหนัก modelling ถ้ามี วันที่ Job อะไร เริ่มต่อด้วย สวัสดี ไหว้ แนะนำตัว แบบไม่ควรเครียดนะ สบาย สบาย บางคนจะเกร็ง casting ก็ควร take ใหม่ หันหน้าซ้าย ขวา หน้า หลัง เรียนหรือทำงานที่ไหน เคยเล่นบทเป็นใคร เรื่องอะไรมาบ้าง และก็ลอง act ตามบทที่บรีฟไว้ และอย่าลืมถ่ายภาพนิ่ง profile ซ้าย ขวา หน้า หลัง ใกล้ไกล ระวัง Lens 50mm ที่ F ตรงกลาง แสดงว่าอาจต้องมีการเพิ่มไฟ หรือลดไฟลง เพื่อ F stop บางคนบอกว่าบ้าไปแล้ว จริงๆ แล้วหากไม่มีเวลาก็ไม่ซีเรียสที่เขียนแค่เป็นหลักเบสิค ที่ให้ได้ภาพเหมือนที่ตาเห็นมากที่สุด อันนี้ถ่ายใน studio เราเอง อ้าวอาจมีการ screentest นอกสถานที่หล่ะ นักแสดงบางคนไม่ว่าง และเราอยากได้คนนี้แน่ๆ แต่ต้อง screentest ส่วนมากเวลาไม่มี Casting ก็จำเป็นต้อง ส่งหน่วยม้าเร็วไป screentest นอกสถานที่ ชึ่งก็ต้องไปที่นักแสดงคนนั้นอยู่ไหน ต้องหา หรือขอสถานที่ถ่ายก็เช่นกัน ควรหาที่ที่แสงเคลียร์เสียงรบกวนน้อย ซึ่งก็จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่านักแสดงเล่นบทที่เราต้องการได้ หากขี้เกียจและตัดออกไปไม่ไป เราก็อาจจะเสียตัวแสดงดีๆ ไปก็ได้ บางครั้งก็อาจมีการ screen test คู่ก็มี ก็ควรลองซ้อมบทกันก่อน หากมีบทที่ต้องพูดเยอะ เมื่อ screentest เสร็จ ก็ต้องนำ file มาตัดก็ปกติคือ คนไทยสวัสดี ก็เป็นสิ่งที่ดีมีความเป็นไทย บางคนตัดสวัสดีออกไปก็ไม่ผิดอยู่ที่ว่าถ่ายมารึปล่าว 5555 แนะนำตัว ผลงานต่อด้วย Profile ซ้าย ขวา หน้า หลัง ใกล้ไกล ไม่ควรเกิน 1 นาที ผลงาน หากเป็นงานโฆษณา ถ้าเป็นตัวแสดงเมนส่วนมากจะไม่เลือกที่โฆษณาจากคู่แข่ง และก็ส่วนมากก็จะไม่ค่อยบอกว่าโฆษณาคู่แข่งมาแล้ว และเคยเห็นหลายๆ ครั้งว่า คนเดียวกันแสดงเมนในสินค้าคู่แข่งกัน อันนี้ casting ต้องพึงระวัง ช่วงนี้ไม่ควรเกิน 1 นาที และต่อด้วย act ที่ต้องการ รวมๆ แล้วไม่เกิน 1 นาทีครึ่ง เต็มที่ไม่เกิน 2 นาทีต่อ 1 ตัวแสดง ควรมีให้เลือก 2-3 คนแต่ 2-3 คนก็ควรเลือกที่เล่นได้ทั้ง 2-3 คน ไม่ใช่ว่าเอาไปเผื่อแบบ คนที่ 1 ได้แน่ๆ แบบขาดลอย ส่วนตัวแสดง Extra ส่วนมากก็ไม่ค่อย screentest ส่วนมากก็ present รูปภาพนิ่งกัน พูดถึงเวลาตัดตอน acting ถ้าเป็นหนังใหญ่ อาจตัดยาวกว่านี้ ก็เป็นได้นะครับ เพราะบทบางบทต้องใช้เวลาในการดู มีบางท่านบอกว่าหากทำอย่างที่ว่า ต้องมีเวลามีงบให้สูงหน่อย ส่วนมากโดน Producer บีบมา เวลาก็ไม่มีเงินก็น้อย ก็จริงครับโลกปัจจุบันไม่รู้จะบีบกันไปถึงไหน หากตัวแสดงเล่นไม่ดีแล้วไซร้ หนังพังทั้งเรื่องครับ Casting Director Film Maker ก็จะเอาไปให้ผู้กำกับดู หากเห็นตรงกันด้วยเหตุผลของ Film Maker ในหนังใหญ่ก็จบ ในหนังโฆษณาก็ต้องเอาไปขาย Agency และลูกค้าต่อไป หากเห็นไม่ตรงกันด้วยเหตุผลของ Film Maker ก็ต้องแก้ใข เพิ่มเติม หาเพิ่มก็ว่ากันไป และด้วยเหตุผลของ Film Maker ส่วนมากจะขายได้ ยกเว้นเจอคน subjective มากๆ ก็ยากหน่อย พอขายได้งานต่อมาคือ Re-Confirm วันถ่ายซึ่งควร Re-Confirm ก่อนเอาไปขาย นัดมาวัดตัวละเอียด เพื่อตัดชุด หรือไปเช่า ไปซื้อชุด บางคนก็ต้องทำสีผมใหม่ต่อผม Treatment ผม หากโฆษณาผม ซึ่ง casting ต้องทราบตั้งแต่ต้นว่าตัวแสดงยอมให้เปลี่ยนสีผม หรือตัดผม และเมื่อชุดตัดเสร็จ casting ก็ต้องนัดมา Fitting และบางครั้งก็อาจมีการซ้อมบทที่เกรงว่าจะยากในวันถ่าย หรือซ้อมเต้นก็มี อ้าวตอน screentest ไม่ได้เลือกมาก่อนเหรอ ตอบ… ตอบ มีหลายๆ ครั้งเลือกตัวแสดงที่หน้าตา แต่ก็ต้องคิดว่าสามารถซ้อมและเล่น หรือเต้นได้ก็มี เพราะอาจหานักเต้นที่มีหน้าตาที่อยากได้ไม่มี ซึ่งการหานักเต้นที่หน้าตาได้ด้วยเป็นสิ่งดีที่สุด หรือหาเต้นไม่ได้ ก็ต้องหานักเต้นที่หุ่นเหมือนตัวแสดงที่เลือก นักเต้นแทนที่เรียกว่า stunt ก็อาจต้องเรียกมาดูเทียบ ปรับปรุงลักษณะภายนอก เช่น ทำผมให้เหมือนกัน เพจนี้เคยเขียนเรื่อง casting มาแล้วบ้าง เรื่อง Cast Rehearsals ลองไปที่ https://www.facebook.com/pmkrrnmk/photos/a.221420964651027/434690706657384/?type=3&theater ตัวอย่างที่ฝรั่งทำ แต่สำหรับคนไทยก็ต้องตกลงกันให้ดี เด๋วถูกด่า http://vimeo.com/51498313 เอาแค่นี้ก่อนครับชอบก็ช่วย like หากเห็นด้วยก็ฝากแชร์ให้น้องๆ รุ่นใหม่ให้สุดขอบประเทศไทย หากเห็นแย้งก็เม้นมาเพื่อปรับปรุง เพิ่มเติม ซึ่งเพจนี้ยินดีมากอยู่แล้ว ไม่ได้คิดว่าที่เขียนมาเป็นหลักสูตร การสอน เขียนจากประสบการณ์เจอมา ของผู้เขียน มาเรียบเรียงใหม่ให้เข้าใจง่ายๆ หากอยากถามก็ถามมา จะไปถามผู้รู้มาให้ครับ ———————————————————— เรื่อง Casting เคยเขียนใน หนังสือผมไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนตอน What The Producer Does? เดิมเขียนไว้ ศาสตร์ของการ casting Casting ต้องเข้าใจบทที่ตัวแสดงเล่นอย่างถ่องแท้ เช่นต้องการผู้แสดงเป็นแม่บ้าน ทั้งผู้กำกับ และผู้ช่วยผู้กำกับ และ Casting ต้องเข้าใจร่วมกันว่า เราต้องการแม่บ้านใจร้าย พูดจามากความ หงุดหงิดตลอดเวลา สายตากร้าว ประมาณอย่างงี้ก็จะทำงานภายใต้ภาพเดียวกัน แต่สิ่งที่ Casting จะเสนอเพิ่มเติมคือ ได้คาแรคเตอร์ตามผู้กำกับเปี๊ยบเลย แต่มีให้เลือกว่า อ้วน อีกคนผอม หรืออีกคนผิวคล้ำกว่า แต่ก็มีข้อยกเว้นจาก casting อีกว่า อีกคนเค้าไม้หงุดหงิดตลอดเวลา แต่ casting สามารถค้นหามาได้อีก 1 คนที่น่าสนใจคือ ดูเหมือนจะใจดี แต่แววตาช้ายร้ายกาจ ร้ายลึก และสามารถเข้ากับบทได้ด้วย นั่นคือตัวเลือกที่ทำให้คุณภาพหนังเข้มข้นขึ้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับผู้กำกับเป็นผู้ตัดสินใจ เห็นมั้ยครับตัวแสดง casting ต้องขุดจิตใจกันออกมา ซึ่งบทหนังที่ดีก็จะเป็นตัวสร้างความสัมพันธ์ของตัวแสดง อีกอย่างการคัดเลือกตัวแสดง พ่อแม่ลูก casting ที่เก่งกาจ จะสังเกตุความเป็นพ่อแม่ลูกได้อย่างดี ลูกสาวจะมีบางอย่างเหมือนพ่อ บางอย่างเหมือนแม่ อันนี้ว่ากันที่เรื่องหน้าตาก่อน และยิ่งต้องทำหนังที่เป็นระยะเวลายาวเช่น ตอนเด็กเป็นเด็กคนนี้ วัยรุ่นเป็นนักแสดงอีกคน โดยที่ตอนผู้ใหญ่ดันบังคับเป็นดาราดังคนนึง Casting ก็ยิ่งต้องทำงานหนักขึ้นอีก เพราะตามบทตอนเด็กอาจจะเป็นเด็ที่ไม่ค่อยพูดเก็บกด แต่เค้าหน้าตาก็ควรจะคล้องจองกับตอนวัยรุ่น และตอนผู้ใหญ่ ส่วนตัวแสดงวันรุ่น บทจะต้องการคนที่เกเรสร้างปัญหา ทุกอย่างที่กล่าวมาล้วนเป็นการทำงานของบุคคลเบื้องหลัง ที่เรียกว่า Casting Teams —————————————–

608 views0 comments

Comments


bottom of page