ในการวางแผนการถ่าย ผู้กำกับใหม่ๆ อาจมุ่งมั่นไปที่ภาพซะเป็นส่วนมาก ลืมไปว่าเรามีเสียงด้วย และมักคิดว่าเอาไปทำทีหลัง เมื่อวางแผน shooting board เสร็จ ควรมาใส่ใจเรื่องเสียงใน shooting board ว่าเสียงเป็นอย่างไร ตัวแสดงพูดอะไร ที่ไหน พอที่ไหนนั่นหมายถึงสถานที่ในการถ่าย Location manager เช็ครึยังว่ามีเสียงรบกวนหรือไม่ Studio เป็น Studio เก็บเสียงหรือไม่ ส่วนมากปัจจุบันไม่ค่อยเป็น Studio เก็บเสียงซักเท่าไหร่ หากเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องให้ความสำคัญกับการอัดเสียง เพื่อให้คุณภาพเสียงดีที่สุด หรือเตรียมฉากไว้กันเสียง หรือ Casting ก็ต้อง Cast ให้ตัวแสดงมี Character เสียงที่ดี แปลก เข้ากับบท หรือดูให้ลึกขึ้นไปอีกว่า SFX ควรเพิ่มอะไร เข้าไปที่ Prop เพื่อให้เสียงชัดเจนขึ้น เช่น ตีเกือกม้าเหล็กเข้าไปที่พื้นรองเท้าผู้ร้าย แก้ววางบนกระจก เสียง อะไร ที่เกิดเสียง คิดเตรียมเอาไว้ รวมถึงต้องอัดแยกด้วยหากมันน่าจะทับกับคำพูด เพื่อขบวนการ Post ทางเสียงที่ต้องทำ ADR หรือแยกเสียง dialogue ออกเพื่อภาษาที่ 2 หรือมิติของเสียงที่ทำได้ยากใน post เช่น ห้องกว้าง ตะโกนเสียงก้อง ก็ควรจะอัดให้ได้ตั้งแต่ตอนถ่าย ในหนังที่ซีเรียสเรื่องเสียง หลายๆ ครั้งต้องให้เวลาอัดเสียงตัวแสดงแยก ไว้อีกต่างหาก เผื่อการซ่อมบางคำใน Post กันไว้อีกชั้นหนึ่ง หากผู้กำกับกับมีเพลงในใจ ก็ควรเอามา playback ตอนถ่าย ตัวแสดงจะได้ซึมซับอารมณ์ตามเพลง ตากล้องจะได้ movement camera ตามเพลง หรือบาง scene เราวางแผนไว้เป็นเสียงเงียบ เสียงเงียบก็อาจหมายถึง เสียง Ambient ก็ควรอัดเอาไว้ ทั้งกว้าง ทั้งแคบ และจดไว้ใน sound report มันเป็นการให้ความสำคัญเรื่องเสียง คนตัดต่อยิ่งต้องให้ความสำคัญเรื่องเสียงอย่างมาก ลองหาอ่านได้ในหนังสือ What The Editor Does? ที่ทางเพจขายอยู่ (โฆษณา) ในบางครั้งการตัดต่อเสียงที่ดีทำให้ ต้องมาเปลี่ยนภาพเลยก็มี ในขั้นตอนการออกแบบเสียง ผมชอบคำว่าการออกแบบเสียงมากกว่าการทำเสียง เพราะพอพูดว่าการออกแบบเสียง ทำให้เรารู้สึกว่าต้องใส่ใจมากกว่าเป็นพิเศษ คนตัดต่อเสียง ในหนังใหญ่จะมีคนตัดต่อเสียงแยกออกมาก็มีครับ คนตัดต่อเสียงจะเพิ่มเติม SFX ตัดเพลงให้เนียนขึ้น หรืออาจขอขยับภาพเพื่อให้ SFX ทำงานก็เป็นได้ หากดีกว่า หรือแค่มีแสงส่องมาที่หน้าต่างก็สามารถหาเพลงใส่ ให้มีเสียงเพลงก็เป็นได้ จากที่ตัดมาเงียบๆ หรือเป็นแค่ Ambient ทุกอย่างทำได้หมดหากทำให้หนังดีขึ้นครับ นี่คือสิ่งที่ Film Maker ทำ เราทำงานหนังที่มีทั้งภาพและเสียง Producer ยิ่งต้องตระหนักในเรื่องเสียงให้มากขึ้นก็จะ ช่วยให้หนังดีขึ้นอย่างมากอีกชั้นหนึ่ง What The Producer Does? ที่กล่าวมาทั้งหมดก็น่าจะเป็นเกล็ดเล็กๆ น้อยๆ ผสมกันเพื่อให้หนังดีขึ้นจากบทที่ดีอยู่แล้ว นี่ก็คือ What The Film Director Does? ที่หลายๆ คนอยากให้เขียนครับ ฝากแชร์........ให้ใคร ให้คนที่รักสิครับ
Comments