top of page
Search
Writer's picturearnold Leelaprasert

ผู้จัดการดาราทำอะไร



ผู้จัดการดาราทำอะไร เคยได้ยินอาชีพนี้ไหมครับ อาชีพนี้มีคู่มากับ Hollywood รุ่งเรืองมา

ผู้จัดการดาราทำอะไร มาไล่ดูกันว่าควรทำอะไร ผมอ่านเอกสารหลายชิ้นมาก เกี่ยวกับบทบาทของผู้จัดการดาราในต่างประเทศ

ผู้จัดการดาราทำอะไร ผมขอใช้หลักของ Producer มาจับนะครับ

SCQ ปกติจะ QSC

แต่มาเรื่องนี้ขอเป็น SCQ

S=Schedule ผู้จัดการดาราดูตารางงานในแต่ละวัน เตือนการเดินทางออกไปทำงาน นัดรถมารับ อ่อบางครั้งถึงกับโทรปลุก ถ้าเธออนุญาติ ตารางเวลาถึงกับละเอียดยิบ เช่นโทรปลุก ให้เวลาแต่งตัว แต่งหน้าเองพอประมาณ ต้องรู้ว่าใช้เวลากี่นาที เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน กินอะไรรึป่าว ที่ hollywood ผู้จัดการดาราถึงขนาดว่าสั่ง อาหารเช้าแบบ delivery แบบรู้ใจว่าเมนูอะไร ดาราบางคนมีพี่เลี้ยง แม่บ้าน ผู้จัดการดาราก็อาจสั่งกำชับเรื่องแต่งตัว เตรียมชุด เตรียมอาหาร โทรนัดคนขับรถ ถ้ามีสตาร์ตรถรอก่อนอก 5 นาที แอร์เย็นๆ รู้เวลา และสถานที่ที่จะจอดรถ นัดไปรับเข้าประตูหลัง หากนัดกับกองถ่ายก็ดักรอเพื่อบรีฟคร่าวๆ แล้วพาไปห้องแต่งหน้าทำผม ประสานงานกับ Producer กองหรือ Casting Director อ่านบทคร่าวๆ ให้ฟังว่าต้องเล่น act เป็นใครในวันนี้ และนั่งเป็นเพื่อนพูดคุยระหว่างรอกองถ่ายในช่วงเบรค ซึ่งกองถ่ายก็ต้อง support หลายๆ อย่างในตอนเบรค นั่นหมายถึง ผู้จัดการดารา ต้อง Request เช่นผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว เสื้อคลุม รอเท้าแตะใส่ระหว่างเบรค หรือหากไม่ต้องการ request ผู้จัดการดาราก็ต้องแจ้งให้เอามาเอง หรือให้พี่เลี้ยงเตรียมให้ใส่กระเป๋าแยกไว้ในรถ หากยิ่งเดินทางไกลก็ย่อมมีขอว่างในรถ หรือหากเดินทางโดยเครื่องบิน ก็ต้องมีการจองตั๋วล่วงหน้าจากผู้จ้าง ผู้จัดการดาราก็จะ request นั่งริมทางเดิน นั่งริมหน้าต่าง ชั้น business หรือ first class ดารา hollywood มัก request first class เสมอ ยิ่งดังมากๆ เค้าบอกต้องเหมา first class เลยก็มี ถึงปลายทางนัดหมายรถมารับ Request โรงแรม Type Room นี่คือในแง่ detail ซึ่งอาจมีมากกว่านี้ก็เป็นได้ ซึ่งการ Request ต้องดูด้วยว่าแบบไทยๆ ก็เอาแบบที่ เหมาะสม บางอย่างยากก็ควรเตรียมไปเอง

S=Schedule อีกมิตินึงคือในแง่ Management ผู้จัดการดาราต้องมีคิวงานต่างๆ อยู่ในมือ และควรตกลงกับดาราว่าต้องการวันพักเบรคเมื่อไหร่ เพราะบางครั้งบางงาน งานถ่ายหนัก อาจต้องเว้น เมื่อต่ออีกงาน แต่ถ้าไหว งานคือเงินถ้าดาราบอกลุย ก็ลุย แต่ถ้าเห็นท่าไม่ดีเช่นเริ่มป่วย ควรดึงเลื่อนเวลาให้เหมาะสม ควรมีหมอประจำ เพราะส่วนมากเป็นโรคประจำ และโรคไม่ได้พักผ่อน ฝรั่งบอกควรดูดกัญชาคลายเครียด ไม่ใช่ละ ลบลบ

ผู้จัดการดาราควรชั่งน้ำหนักระหว่างสุขภาพและเงินที่ได้ เพราะหากกระหน่ำทำงานหนักเกิน อาจจะต้องพักยาว ได้ไม่คุ้มเสีย ยาที่กินเป็นเรื่องสำคัญควรเตรียมไปเอง ไม่ควรไปหวังน้ำบ่อหน้า บางครั้งก็ไม่มีไม่ บางครั้งก็ไม่ขายเพราะต้องมีใบสั่งแพทย์

ขอคร่าวๆ ก่อน มาต่อที่

C=Cost ผู้จัดการดาราควรเข้ามาดูกำหนดราคาค่าตัวของดารา ดูยังไง ส่วนมาดาราดิวเองนี่ หรือไม่ก็แม่ดารา ผู้จัดการดาราควรเป็นผู้กำหนดราคาค่าตัว ดูราคากลางขอดาราที่ใกล้เคียงกัน การกำหนดราคาโดยมองราคาตลาดที่เป็นไปได้ หรือหากดังมากก็ต้องเรียกราคาให้ได้กับความดังมาก และกับหนังใหญ่บางเรื่องหากต้องการบทที่เล่น ก็ควรปรับค่าตัวให้ได้กับบทที่อยากเล่น เพราะบทที่ดีจะส่งความดังของตัวดาราขึ้นไปอีก และการ balance ค่าตัวที่พ่วง เช่นช่างแต่งหน้า ทำผม ในไทยรู้สึกเว่อร์วังมากกับราคาช่างแต่งหน้าทำผม ควรมีหลายๆ คนและราคาที่พอเหมาะตามราคาที่ตลาดเป็น รวมถึง body double stunt ก็ควรจัดหาเอาไว้ และกำหนดค่าตัวให้เหมาะสม ราคามักหมายถึงทีมงานที่พ่วงมา ค่าเดินทางด้วยของผู้จัดการดารา ที่พัก จิปาถะ

Cost อีกมิตินึงคือการบริหารรายรับรายจ่าย เนื่องจาดาราจะมีรายรับมากกว่าปกติ ควรให้คำปรึกษากับภาษีที่จะเกิดขึ้น ไม่ควรเลี่ยงภาษี ควรจัดตั้งบริษัทเพื่อบริหารภาษี เพราะภาษีส่วนบุคคลมักจะสูงมาก แต่ก็มีนะฝรั่งบางคนยินดีที่จะเสียภาษี โดยเรียกเก็บโดยแยกให้เห็นว่าจะโดนภาษีเท่าไหร่ ชี้แจงกันเห็นๆ จ่ายจริง ส่วนไทยๆ ควรบริหารโดยบริษัทจัดการสำหรับดารา

อีกมิตินึงผู้จัดการดาราควรมีสัญญาฉบับบมาตรฐาน ของดาราเอาไว้เพื่อผลประโยชน์ของดารา การเก็บเพิ่มหากมีการใช้ในสื่อที่เพิ่มเติม และเข้ามาดูสัญญากับบริษัทใหญ่ที่มีสัญญามาตรฐานของเขา เช่นกันว่ามีอะไรที่เสียเปรียบเกินไปรึปล่าว กับเงินที่ได้มา

ราคาที่ถูกกว่าอาจจะมีข้อแม้ที่ห้ามน้อยกว่า การถ่าย MV อาจถูกว่าหนังใหญ่ และถูกกว่าโฆษณา สร้าง Rate ราคาที่ชัดเจน มีสัญญาที่รัดกุม

หรือการบริจาคเพื่อสังคม ที่จะส่งไปที่ชื่อเสียงที่ดี

Q Quality ผู้จัดการดาราควรจัดหาคอร์สฝึกหัดเพื่อเพิ่มทักษะให้ดารา การร้องเพลง การเต้น การแสดง พูดง่ายๆ เพิ่มความสามารถ เพื่อมีความกว้างในการรับงาน การทำศัลยกรรมที่ดูดีขึ้น การรับบทที่ไม่เคยเล่น แต่มีการฝึกให้เล่นในบทที่ไม่เคยเล่นได้

หรือเล่นฟรีเพื่อการกุศลก็ควรทำเพื่อชื่อเสียงทางด้านสังคม

Q อีกอย่าคือการ PR ผู้จัดการดาราควรเป็นนัก PR ที่ดี หรืออาจจะจ้างนัก PR มาอยู่ใน Team ด้วยก็เป็นได้ การใช้สื่อสำหรับ PR การให้สัมภาษณ์ การใช้สื่อ online Twitter FB YouTube instagram ล้วนต้องมีคนจัดการ หากไม่มี ผู้จัดการดาราก็ต้องมีความรู้ทางด้านนี้บ้าง

อีกอย่างคือการวางแผนระยะยาว การวางภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไป บางคนเมื่อเวลาผ่านไปภาพลักษณ์อาจเปลี่ยน จากวัยหนุ่มสาวเป็นพี่วัยพ่อวัยแม่

ผู้จัดการดาราขอเมืองนอกมีรายได้ 30% ของรายรับดารา โหคนไทยบอกเยอะ ไม่เยอะหรอกครับถ้าเค้าทำได้ตามที่ว่า หากยังเป็นแบบไทยๆ ก็ที่เห็นจ้างเป็นเงินเดือน ซึ่งก็ไม่ยืนยาว เพราะเงินที่ดาราได้เยอะขึ้นไม่แปลผันกับรายได้ อาจจะเริ่มที่เป้าหมายว่า 20% และหากเรียกได้มากขึ้นหางานได้มากขึ้น และทำได้จริงๆ ก็ 30% ก็ไม่ได้มากมาย ไม่งั้นก็อยู่ด้วยกันไม่ยาว

ผมเรียบเรียงจากบทความเมืองนอกเพื่อเป็นแแบบอย่างที่ดี ควรเอามปรับกับวิถีไทยๆ มากกว่าครับ ไม่จำเป็นต้องตามฝรั่งจ๋าทุกอย่าง

หลักง่ายๆ ของผู้จัดการดารา คือรักษาภาพลักษณ์ให้ดาราให้มากที่สุด ดาราท่านไหนต้องการผู้จัดการดารา ผมสมัครทำให้ได้นะครับ Inbox มาได้เลยครับ

ใครมีประสบการณ์ที่อยากเพิ่มก็เม้นเพิ่มมาเลยครับ ฝากแชร์ให้คนที่รักนะครับ ++++++++++++++++++++

256 views0 comments

Comments


bottom of page